บริภัณฑ์เครื่องวัด
( Measuring Instruments )
ค่าต่างๆทางไฟฟ้าจะทำให้เราทราบสภาพการทำงานของระบบไฟฟ้า
เป็นต้องมีบริภัณฑ์เครื่องวัดส่วนใหญ่มักติดตั้งที่แผงสวิตช์วัดค่าทางไฟฟ้าสำคัญ
ต่างๆ เช่น กระแส ( A ),แรงดัน ( V ), กำลังทางไฟฟ้า ( W )
, ตัวประกอบกำลัง ( P.F. )เป็นต้น สำหรับเครื่องวัดที่ใช้วัดค่าต่างๆ
ดังรูป
Ammeter
( A )
โดยทั่วไป Ammeter จะทนกระแสได้ 5 A ถ้าต้องการวัดกระแสสูงขึ้นกว่านี้ต้องมีหม้อแปลงกระแส
( CT ) เพื่อแปลงเป็นค่าไม่เกิน 5 A เช่น จาก 1000/5 A เป็นต้น
มีขนาดมาตรฐาน 96x96 mm2 Class 1.5% จำนวนหม้อแปลงกระแสขึ้นอยู่กับสายไฟที่เราจะวัด
เช่น ระบบ 3 เฟส 4 สาย มีCT 3 ตัว ถ้าเราวัดทีละครั้งจะแปลงกระแส
ได้โดยใช้ Ammeter Selector มาช่วย
Voltmeter
( V )
ทนแรงดันได้ไม่เกิน 500 V ต่อโดยตรงผ่าน Voltage Selector
เลือกจัดค่าแรงดันระหว่างสายกับนิวทรัลหรือสายกับสาย มีขนาดเต็มสเกล
500 V Class 1.5% ขนาดมาตรฐาน 96x96 mm2
Frequency
Meter ( F )
ใช้วัดความถี่ทางไฟฟ้า ซึ่งในประเทศไทยใช้ความถี่ 50 Hzสเกลช่วงความถี่
45 - 55 Hz Class 0.5% ขนาดมาตรฐาน 96x96 mm2
Power
Factor Meter ( P. F. )
วัดตัวประกอบกำลังของระบบไฟฟ้า สเกลมีช่วงระหว่าง 0.5 Leading
ถึง 0.5 Lagging Class 1.5% ของ 90 องศาทางไฟฟ้า ขนาดมาตรฐาน
96x96 mm2
Kilo
Wattmeter ( kW )
ใช้วัดกำลังไฟฟ้า มีให้ใช้งานได้ทั้ง 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส
4 สาย ขนาดมาตรฐาน 96x96 mm2 Class 1.5%
Kilowatt-hour
( kWhr )
ใช้วัดค่าพลังงานไฟฟ้ามีทั้งวัด 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สาย
ขนาดมาตรฐาน 96x96 mm2 Class 1.5%
Current
Transformers ( CT )
หม้อแปลงที่ใช้แปลงกระแสให้มีค่าต่ำลง เพื่อให้เหมาะสมกับการวัดและการทำงานของบริภัณฑ์ป้องกัน
Current Transformers จะสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
กับบริภัณฑ์วัดและบริภัณฑ์ควบคุมต่างๆเนื่องจากการเกิด Overcurrent
ได้ดีในการใช้งาน Current Transformers จะต้องไม่ให้เกิดการเปิดวงจรด้านทุติยภูมิ
เพราะจะทำให้เกิด แรงดันไฟฟ้าสูงมากจนอาจทำให้เกิดความเสียหาย
Universal
Measuring Device
- ใช้ Microprocessor
- วัดค่าทาง ไฟฟ้าได้ทั้งหมด เช่น Voltage ( V ) , Current
( A ) , Apparent Power ( kVA ) , Real Power ( kW ) , Frequency
( Hz ) และ
Total Harmonic Distortion ( THD ) เป็นต้น